Breaking News >> News >> Taiwan Today


รองปธน.ไล่ฯ เข้าร่วมแสดงปาฐกถาภายใต้หัวข้อ “การพัฒนาเศรษฐกิจในยุคหลังโควิด – 19 ปี 2022” ในการประชุมใหญ่ประจำปีของของสโมสรโรตารีสากล ภาค 3481


Link [2022-01-22 18:38:28]



ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 19 ม.ค. 65   เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 19 ม.ค. นายไล่ชิงเต๋อ รองประธานาธิบดี สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ตอบรับคำเชิญของสโมสรโรตารีสากล ภาค 3481 เข้าร่วมแสดงปาฐกถาภายใต้หัวข้อ “การพัฒนาเศรษฐกิจในยุคหลังโควิด – 19 ปี 2022” โดยรองปธน.ไล่ฯ ได้แสดงความคิดเห็นในประเด็นสำคัญๆ อาทิ สถานการณ์ล่าสุดของโรคระบาด ผลสัมฤทธิ์ด้านการป้องกันโรคระบาดของไต้หวัน การขยายตัวทางเศรษฐกิจ และการจัดตั้ง “ระเบียบใหม่” หลังยุคโควิด - 19 และ “การพัฒนาอย่างยั่งยืน” เป็นต้น   รองปธน.ไล่ฯ เริ่มต้นด้วยการขอบคุณสมาชิกสโมสรโรตารีทุกคนที่กระจายตัวอยู่ทั่วทุกพื้นที่ในไต้หวัน ที่ได้ให้ความช่วยเหลือแก่ชุมชน ผลักดันกิจกรรมการกุศล และดูแลกลุ่มผู้ด้อยโอกาส ภายใต้หลักการ “การบริการเหนือตน” (Service above Self) เพื่อประกาศก้องให้ทั่วโลกประจักษ์เห็นถึงสปิริตที่ว่า “ไต้หวันช่วยได้ และไต้หวันกำลังช่วย” (Taiwan can help, Taiwan is helping)   สำหรับหัวข้อปาฐกถา “การพัฒนาเศรษฐกิจในยุคหลังโควิด – 19 ปี 2022”นั้น รองปธน.ไล่ฯ กล่าวว่า หัวข้อนี้ประกอบด้วย 3 ประเด็นหลัก ประการแรกคือการสกัดกั้น “โรคระบาด” ประการที่ 2 การจัดตั้ง “ระเบียบใหม่”หลังยุคโควิด – 19 และประการที่ 3 คือ “การพัฒนาอย่างยั่งยืน”   ไต้หวันภายใต้การนำของประธานาธิบดี ที่ส่งเสริมให้อุตสาหกรรมทุกแวดวง เจ้าหน้าที่และประชาชนร่วมประสานสามัคคีในการรับมือกับการสกัดกั้นโรคระบาด ได้รับการชื่นชมจากประชาคมโลกอย่างล้นหลาม   รองปธน.ไล่ฯ ชี้แจงว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) สายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) มีการลุกลามอย่างรวดเร็ว โดยรองปธน.ไล่ฯ กำชับว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องไปรับวัคซีนกันถ้วนหน้า ขณะนี้ อัตราการเข้ารับวัคซีนป้องกันโควิด – 19 โดสแรก ครอบคลุมประชากรไต้หวันประมาณร้อยละ 80  ส่วนโดสที่ 2  ครอบคลุมประมาณร้อยละ 72 เพียงแค่ทุกคนประสานความร่วมมือในการร่วมป้องกันโรคระบาด สถานการณ์การแพร่ระบาดก็จะได้รับการควบคุมไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เศรษฐกิจของไต้หวันจึงจะสามารถพัฒนาต่อไปได้อย่างยั่งยืน   สำหรับการจัดตั้ง “ระเบียบใหม่” หลังยุคโควิด – 19 รองปธน.ไล่ฯ กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ยังส่งผลกระทบต่อโครงสร้างเศรษฐกิจในภาพรวม แนวทางการเผชิญหน้า การสำแดงข้อได้เปรียบและการคว้าโอกาสใหม่ จึงเป็นประเด็นที่สำคัญในอนาคตของพวกเรา   รองปธน.ไล่ฯ กล่าวว่า เพื่อรับมือกับการพัฒนาเศรษฐกิจในยุคหลังโควิด - 19 รัฐบาลจึงได้เร่งผลักดันยุทธศาสตร์ 6 อุตสาหกรรมหลักอย่างต่อเนื่อง คาดหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเสริมสร้างให้ไต้หวันก้าวสู่การเป็นศูนย์กลาง 4 อุตสาหกรรม ซึ่งประกอบด้วย การผลิตขั้นสูง การวิจัยและพัฒนาทางเทคโนโลยีระดับสูง กระบวนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ล้ำสมัย และการพัฒนาพลังงานสีเขียว   ในส่วนของการพัฒนาอย่างยั่งยืน เมื่อปีที่แล้ว ปธน.ไช่ฯ ได้ประกาศเป้าหมายว่าด้วย “การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ในปี 2050” ซึ่งเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่มาก เพราะนอกจากจะต้องดำเนินภารกิจที่สอดคล้องกับเป้าหมายข้างต้น ให้สำเร็จลุล่วงก่อนปี 2050 แล้ว ยังต้องเร่งพัฒนาเศรษฐกิจของไต้หวัน พลิกอุปสรรคความท้าทายให้เป็นตัวช่วยขับเคลื่อนการพัฒนา เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมของไต้หวัน ได้รับการเปลี่ยนผ่านไปสู่อีกระดับ



Most Read

2024-09-20 01:06:05